วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร

     กรุงเทพมหานครตระหนักถึงความสำคัญของมรดกทางศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวบ้านในแต่ละท้องถิ่น จึงได้มีแนวคิดที่จะสร้างแหล่งรวบรวมมรดกทางศิลปะวัฒนธรรม และภูมิปัญญาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาค้นควาของอนุชนคนรุ่นหลัง โดยมีอาคารอันทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมโบราณสถาน โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ ซุ้มแสดงวิถีชีวิต และนิทรรศการอันเป็นเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งจัดแสดงไว้
จากนโยบายของกรุงเทพมหานครที่จะพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งศิลปวัฒนธรรมดังกล่าว กรุงเทพมหานครโดยสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว จึงได้ริเริ่มโครงการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพขึ้นในปี พ.ศ. 2546 เพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวม และเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรม ตลอดจนภูมิปัญญาของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น และเผยแพร่แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในแต่ละพื้นที่ส่งเสริมให้กรุงเทพเป็น มรดกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี และมีเอกรักษ์ทางวัฒนธรรม
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเปิดให้บริการแก่ประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 27 แห่ง ใน 25พื้นที่เขต
วัตถุประสงค์
1.        เพื่อเป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมลูต่างๆทั้งในด้านประวัติความเป็นมา วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น
2.        เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และตระหนักถึงคุณค่าที่ควรรักษาไว้ให้คงอยู่
3.        เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับชุมชน เป็นคลังความรู้ของคนในท้องถิ่นและผู้สนใจทั่วไป และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้กับกรุงเทพมหานคร
4.        เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสามัคคีในชุมชนและสร้างเศรษฐกิจชุมชน
ลาดกระบัง : ภูมิ – ถิ่นฐาน
วัฒนธรรมมอญ โบสถ์ไม้สักทองวัดทิพพาวาสหลวงพ่อขาววัดลาดกระบัง
เดิมพื้นที่บริเวณเขตลาดกระบังเป็นพื้นที่การปกครองของเมืองมีนบุรี มีฐานะเป็น อำเภอแสนแสบ
ต่อมาราวปี พ.ศ. 2468 – 2469 พลเอกสมเด็จพระเจ้าที่ยาเธอกรมหลวงลพบุรีราเบศร์ ขณะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยทรงเห็นว่าชื่ออำเภอแสนแสบ ไม่ตรงกับความเป็นจริงเพราะคลองแสนแสบนั้นไหลผ่านไปทางอำเภอมีนบุรี ไม่ได้ไหลผ่านอำเภอแสนแสบแต่อย่างใด จึงทรงให้เปลี่ยนชื่อจาก อำเภอแสนแสบ เป็น อำเภอลาดกระบัง ตามที่ตั้งที่ว่าการอำเภอซึ่งอยู่ในตำบลลาดกระบัง

ต่อมาจังหวัดมีนบุรีถูกยุบรวมกับจังหวัดพระนคร อำเภอลาดกระบังจึงขึ้นกับจังหวัดพระนคร เมื่อมีประกาศคณะปฎิวัติรวมจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรีเข้าด้วยกันเป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรี และเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็นกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2515 อำเภอลาดกระบังจึงเปลี่ยนฐานะเป็น เขตลาดกระบัง มีคลองประเวศบุรีรมย์เป็นคลองสายหลักที่มีความยาวและใหญ่ที่สุด ทำให้ผู้คนในพื้นที่เขตลาดกระบังยังคงเดินทางสัญจรทางน้ำ นอกจากนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ทางการเกษตร


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น